"เข้าพบปลัดกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อบูรณาการแผนยุทธศาสตร์ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเวลเนส Thailand Wellness Tourism พร้อมเสนอแผนแก้ไขปัญหาขาดแคลนบุคคลากรในสถานประกอบการ"

21 กุมภาพันธ์ 2566


วันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2566 ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทย ได้นำกรรมการจากทุกภูมิภาคเข้าร่วมหารือกับนายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ให้ภาคเอกชนได้รับการบูรณาการและการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเวลเนสทั้งด้านการบริการและการส่งเสริมสุขภาพโดยเพิ่มกำลังคนในสาขาอาชีพสปาเทอราปิ้ส อาชีพนวด โดยขอสนับสนุนให้เกิดการประสานงานระหว่างกระทรวงที่เกี่ยวข้อง ให้เกิดการอบรมทักษะให้แก่บุคลากร เติมกลับเข้าสู่อุตสาหกรรมการบริการเพื่อส่งเสริมสุขภาพเพื่อให้พอเพียงแก่ความต้องการของผู้บริโภค เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบัน อุปสงค์ในการใช้บริการสปา และการนวด มีมากกว่าอุปทานเพราะขาดแรงงานที่มีทักษะ จากผลกระทบโควิด 19  และผลกระทบจากผู้มีทักษะในด้านบริการสปาและด้านนวดไปประกอบอาชีพในต่างประเทศโดยทั้งผิดกฎหมาย และทั้งถูกกฎหมาย ทางสมาพันธ์ฯจึงได้นำเสนอขอให้หน่วยงานภาครัฐช่วยสนับสนุนแผนระยะสั้น เร่งด่วน ในการช่วยเติมเต็มผู้มีทักษะเข้าสู่อุตสาหกรรมบริการในประเทศก่อน โดยหากมีงบประมาณช่วยเหลือในการอบรมด้านสปา ด้านนวดอบรมผู้ชำนาญการในด้านการบริการส่งเสริมสุขภาพในแต่ละภูมิภาคและมีนโยบายวางแผนงานให้ผู้มีทักษะที่ผ่านการอบรมได้ทำงานอยู่ในประเทศไทยก่อนในระยะเวลา 2-3 ปีนี้เพื่อช่วยก่อให้เกิดรายได้จาก Wellness Tourism เข้าสู่ประเทศไทยก่อน มากกว่าที่จะส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ให้ผู้เชี่ยวชาญและผู้มีทักษะในด้านสปา ด้านการนวด ผู้เชี่ยวชาญด้านส่งเสริมสุขภาพไปทำงานต่างประเทศ 

สำหรับแผนระยะยาว เพื่อจะได้บรรลุเป้าหมาย ภายใน 5 ปี จากนี้ ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านสุขภาพระดับ 1 ของโลก (No.1 World Class Wellness Destination) จึงขอเสนอการบูรณาการแผนยุทธศาสตร์ที่ร่วมการเขียนแผนงานระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ภายใต้ร่มของเวลเนส ซึ่งผนวกทั้งด้านการบริการสปาและการนวด ด้านกีฬา ด้านน้ำพุร้อน ด้านโภชนาการ ด้านศาสตร์การชะลอวัย ฯลฯ โดยสมาพันธ์สมาคมสปาแอนด์เวลเนสไทย พร้อมที่จะขับเคลื่อนนโยบาย ร่วมทำงานกับทางภาครัฐอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จ